Bioderma เป็นเวชสำอางค์ที่มีโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็ก ที่ใกล้เคียงกับโครงสร้างของผิวหนัง และมีค่า pH=5 ซึ่งใกล้เคียงกับค่า pH ของผิวหนัง (โดยปกติอยู่ที่ 5-5.5) และมีคุณสมบัติในการป้องกันผิวจากแบคทีเรียอีกด้วย ทำให้ผลิตภัณฑ์ประเภท Cleanser ของ Bioderma สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด โดยไม่ระคายเคืองต่อผิว
Bioderma สามารถเช็ดเครื่องสำอางทำความสะอาดที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ จุดที่เด่นของ Bioderma คือ ไม่มีสี ไม่ผสมแอลกอฮอล์ ไม่ผสมน้ำหอม และสารกันเสีย เหมาะกับทุกสภาพผิว จนถึงผิวที่แพ้มากๆ ก็สามารถใช้ได้ เวลาที่คนไข้ทำเลเซอร์ หมอก็จะให้ใช้ตัวนี้ เช็ดทำความสะอาดหน้า สำหรับผิวแห้ง ก็ไม่ทำให้ผิวแห้งหลังใช้ แต่ผิวกลับชุ่มชื้นขึ้น
Bioderma หรือ Cleansing Water จะมี 2 สูตร เป็นที่นิยมมากก็คือ
1. Bioderma Sebium H2O - สีเขียว
ตัวนี้จะเหมาะกับผิวผสม ถึงผิวมัน หรือผิวที่เป็นสิวได้ง่าย ผิวที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง
สำหรับสูตรนี้จะช่วยทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน ขจัดน้ำมันส่วนเกิน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และมีส่วนผสมของธรรมชาติที่ช่วยในเรื่องการคุมต่อมไขมัน
Ginko Biloba Leaf Extract จะช่วยลดการเกิดเซลล์ผิวตาย, Mannitol ช่วยควบคุมต่อมไขมัน ให้ทำงานอย่างสมดุล และลดการสะสมของไขมัน ทั้งสองส่วนผสมนี้ เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Bioderma เช่นกันคะ
ตัวนี้ Oil-free, Soap-free, Alcohol-free และเป็น Non-comedogenic ไม่ทำให้อุดตัน
2. Bioderma Sensibio H2O - สีชมพู
ตัวนี้จะเหมาะกับผิวแห้ง ถึงผิวธรรมดา หรือผิวแพ้ง่าย ผิวที่เพิ่งผ่านการเลเซอร์ มีพวกรอยแดง หรืออักเสบ
สูตรนี้จะมีส่วนผสมของ Laminiaria จะช่วยยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง และ Enoxolone ช่วยต่อต้านการอักเสบลดอาการแดงของผิว ทั้งสองส่วนผสมนี้ เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Bioderma
อ่อนโยนเหมือนน้ำ สะดวกในขั้นตอนเดียว ทั้งเช็ดทำความสะอาดผิวรอบดวงตา และผิวหน้า ทั้งยังไม่มีสารก่อให้เกิดการระคายเคือง
Oil-free, Soap-free, Alcohol-free, Perfum-freeและด้วยนวัตกรรม Micelle ทำให้ไม่ต้องล้างซ้ำด้วยน้ำ (แต่ก็แอบล้างอยู่ดี ควรจะล้างนะคะ เพื่อความสะอาด)
วิธีใช้ Bioderma :
1. หยด Bioderma ลงบนสำลี และใช้เช็ดทำความสะอาดให้ทั่วใบหน้า และลำคอ
2. ใช้เป็นประจำวันละ 1-2 ครั้ง
3. ไม่จำเป็นต้องล้างหน้าซ้ำ หลังการเช็ดด้วย Bioderma
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น